ของกิน ที่ห้ามให้สุนัขกิน มีนะคับ เพื่อนๆรู้ไหม มีเมนูไหนบ้าง? กระกูกไก่ กระดูกปลา องุ่น ลูกพลับ ะโวคาโด เครดิต http://pet.webmd.com
ของกิน ที่ห้ามให้สุนัขกิน มีนะคับ เพื่อนๆรู้ไหม มีเมนูไหนบ้าง? กระกูกไก่ กระดูกปลา องุ่น ลูกพลับ ะโวคาโด เครดิต http://pet.webmd.com
1.ควรเลือกสัตว์เลี้ยงให้เหมาะกับขนาดพื้นที่โดยเลือกสัตว์ตัวเล็กๆ 2.ต้องหมั่นสังเกตและตัดเล็บสัตว์เลี้ยงให้สั้นอยู่เสมอสัตว์ ที่เลี้ยงในคอนโดเล็บจะยาวกว่าปกติ เพราะพื้นคอนโดเป็นไม้เป็นพื้นแบบลื่นฉะนั้นสัตว์จะไม่ได้ฝนเล็บตามธรรมชาติ ต่างจากสัตว์ที่เลี้ยงตามบ้านที่ได้ออกไปเดินพื้นคอนกรีตได้ฝนเล็บตามธรรมชาติ 3.ต้องให้ความรักความเอาใจใส่ ต้องมีกิจกรรมกับเขาเพราะสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้คนเดียวจะขาดความอบอุ่น เกิดความเครียด จะเลียตัวเองแทะตัวเองเหมือนที่คนกัดเล็บตัวเอง 4.ต้องหาเวลาพาเขาออกไปออกกำลังกายไป เจอสังคมเพื่อให้เขามีสุขภาพแข็งแรงขึ้น เราอาจจะคิดว่าการโยนลูกบอลเล่น ในห้องเพียงพอแล้วแต่ต้องอย่าลืมว่าพื้นลื่น มันทำให้ขาลื่นออกบ่อย ๆ ฉะนั้นต้องพยายามดูแลพื้นไม่ให้ลื่นเพื่อไม่ให้มีปัญหาโรคข้อและกระดูก 5.ต้องดูแลรักษาความสะอาดสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่พาสัตว์เลี้ยงออกไปข้างนอกไม่ว่าจะเป็นการพาไปโรงพยาบาล ไปเดินเล่น ไปตัดขน ก็เป็นโอกาสที่เขาจะติดเห็บและหมัดกลับมาที่ห้องต้องดูด้วยว่าที่ไหนปลอดภัย หรือที่ไหนเสี่ยงที่จะติดเห็บหมัดหรือถ้าพาออกไปสม่ำเสมอต้องให้ยาควบคุม ป้องกันเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ 6.เรื่องสภาพอากาศเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังและดูแล ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ พันธุ์ของสัตว์ที่เลี้ยง สุนัขพันธุ์ที่มีหน้าสั้นขนสองชั้น หรือขนหนามาก ๆ เช่น พันธุ์ปอมเมอเรเนียน ไซบีเรียนฮัสกี้ซึ่งเป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองหนาวไม่คุ้นเคยกับ อากาศร้อนในบ้านเรา เพราะฉะนั้นถ้าจะเลี้ยงต้องมั่นใจว่าอากาศถ่ายเทได้สะดวกไม่ร้อน และไม่แนะนำให้ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในห้อง เพราะสัตว์ไม่มีการระบายอากาศออกทางเหงื่อเหมือนคนสัตว์ถ่ายเทความร้อนออก จากร่างกายโดยการหายใจเอากาศเข้าไป ถ้าอยู่ในที่ที่อากาศร้อนจะเสี่ยงมากต่อการเสียชีวิตฉะนั้นถ้าต้องทิ้งสัตว์ เลี้ยงไว้ลำพังแต่ไม่อยากเปิดแอร์ทิ้งไว้ก็ไม่ควรเลี้ยงสุนัขพันธุ์ที่มีขน หนา 7.ให้สังเกตอาการของสัตว์เลี้ยง เพราะ สัตว์อาจจะมีโอกาสแพ้ข้าวของเครื่องใช้เขาอาจแพ้ของใช้ของเขาเอง เช่น ชามอาหารที่เป็นพลาสติก สังเกตได้โดยดูว่ามีผื่นแดงรอบปากหรือไม่ถ้าเขาแพ้ชามอาหารพลาสติกให้ เปลี่ยนมาใช้ชามสแตนเลสแล้วจะหาย และอีกอย่างที่คนมักจะเข้าใจผิดคือแชมพู สบู่ที่คนใช้ได้ ก็ควรจะใช้กับสัตว์ได้เช่นกัน ซึ่งความจริงแล้วอะไรที่ดีสำหรับคนแล้วจะดีสำหรับสัตว์เสมอไปเพราะคนกับ สัตว์มีความต่างกัน ความเป็นกรดด่างของผิวไม่เท่ากัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์โดยเฉพาะ
สอน วิธีทำบ้านสัตว์เลี้ยงแบบง่าย ๆ พร้อมภาพประกอบ ที่คนรักสัตว์ก็ทำบ้านโดมมุ้งมิ้งน่ารัก ให้เจ้าตูบ และเจ้าเหมียวที่บ้านได้ ในราคาประหยัดสุด ๆ เพราะสุนัข และแมว ก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวไม่ต่างจากคน จะให้นอนเกลือกกลิ้งตามพื้นบ้านอย่างเดียวก็คงดูไม่งามเท่าไร แต่จะให้ทุ่มเงินซื้อบ้านสัตว์เลี้ยงหลายคนก็อาจจะรู้สึกแพงไปหน่อย ดังนั้นเพื่อพบกันคนละครึ่งทาง เราก็เลยมีรีวิวดี ๆ จาก คุณสมาชิกหมายเลข 1856781 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่จะมาสอนทำ บ้านโดมสัตว์เลี้ยง ฉบับน่ารักมุ้งมิ้ง ในราคาประหยัด มาฝากกัน เพื่อให้คนรักสัตว์ได้ลองนำไป DIY กันดู จะออกมาเป็นอย่างไรลองไปติดตามกันเลยค่ะ ทำบ้านโดมสัตว์เลี้ยง ง่ายราคาประหยัด ให้เจ้าตัวแสบกันค่ะ โดย คุณสมาชิกหมายเลข 1856781 สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาสอนวิธีทำ บ้านโดมสุนัข ที่ขายตามท้องตลาดราคาค่อนข้างสูงมากค่ะ เลยจะมาสอนแบบประหยัด ๆ และง่ายมากกก ไปทำกันเลย เตรียมอุปกรณ์กันเลยค่ะ 1. ผ้าลายสวย ๆ 2. กรรไกร 3. เข็มกับด้าย 4. ไม้แขวนเสื้อเหล็ก 2
บ้านเราถือได้ว่าเป็นประเทศเมืองร้อน ยิ่งเข้าสู่ช่วงอากาศร้อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะอากาศร้อนมากจริง ๆ จนเราเองบางครั้งก็แทบจะทนร้อนไม่ไหว ยิ่งใครที่มี สัตว์เลี้ยง ด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะนอกจากตัวเองจะร้อนแล้ว ยังต้องพยายามหาทางช่วยคลายร้อนให้เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกด้วยแถมเมื่อเข้าสู่ช่วงที่อากาศร้อนทีไร เหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงก็มักจะเสี่ยงเป็นโรคฮิตที่มักจะเกิดในฤดูร้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ เรบีส์ ไวรัส ถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่งที่ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สามารถติดต่อกันผ่านทางน้ำลาย หรือการถูกสัตว์ที่ป่วยกัด ข่วน หรือเลีย นอกจากนี้หากโดนน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อกระเด็นเข้าที่ตา ปาก หรือบาดแผลก็มีสิทธิ์ติดเชื้อได้เช่นกัน อาการของสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อจะมีทั้งแบบเซื่องซึม จะแยกตัวอยู่ตามซอกหลืบ กินข้าวและน้ำน้อยลง ไม่สุงสิงกับใคร ต่อมาจะค่อย ๆ เป็นอัมพาตและตายในที่สุด และแบบดุร้าย ที่จะมีอาการอาละวาด ดุร้ายปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล วิ่งโดยไม่มีจุดหมาย ก่อนจะมีอาการอัมพาต ระบบหัวใจล้มเหลว และตายในที่สุด วิธีป้องกันสามารถทำได้โดย พาสัตว์เลี้ยงของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า หมั่นดูแลไม่ให้สัตว์เลี้ยงของตนออกมาเดินเพ่นพ่านนอกบ้าน เพราะเสี่ยงต่อการถูกสัตว์นอกบ้านกัด โรค Hot Spot หรือภาวะแพ้อากาศร้อนจัด เกิดจากสภาวะอากาศที่ร้อนชื้น หรือสัตว์เลี้ยงอาจจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ
มาอุ้มน้องแมวเหมียวให้ถูกวิธีกันเถอะ..
เมื่อสุนัขได้กลิ่นหอม ๆ ของอาหารจากห้องครัวทีไรเป็นต้องวิ่งเข้าหาทุกครั้ง และเชื่อว่าเจ้าของทุกคน หากได้หันไปเห็นดวงตากลม ๆ ส่งสัญญาณอ้อนวอนมาเมื่อไหร่ ย่อมต้องใจอ่อน ยอมแบ่งอาหารให้ตลอด โดยไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังทำร้ายสุนัขทางอ้อม เพราะอาหารบางชนิดถึงแม้จะมีประโยชน์กับคน แต่อาจทำให้เกิดโทษกับสุนัขได้ 1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อว่าหลายคนคงนึกสนุกที่รินเครื่องดื่มซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ให้ สุนัขดื่ม เพราะความอยากรู้อยากเห็นหรือความสนุกสนานของตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้สุนัขช็อก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 2. อาหารเด็ก จริงอยู่ที่อาหารเด็กละเอียดกินง่าย และน่าจะช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แต่อย่าลืมว่าในอาหารเด็กบางยี่ห้อมีผงหัวหอมผสมอยู่ หากส่วนผสมดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายสุนัข ก็อาจทำให้สุนัขตัวดังกล่าว เกิดอาการอ่อนเพลีย เซื่องซึม และหัวใจเต้นเร็ว เพราะเซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย 3. อาหารแมว สำหรับคนที่เลี้ยงแมวกับสุนัขไว้ด้วยกัน ควรจะแบ่งแยกประเภทอาหารระหว่างสัตว์เลี้ยง ทั้ง 2 ชนิด ให้ชัดเจน เพราะอาหารแมวมีปริมาณของโปรตีนและไขมันมากกว่าที่ร่างกายของสุนัขต้องการ 4. ช็อกโกแลต เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสารที่เรียกว่า Theobromine หากสุนัขกินเข้าไปก็จะส่งผลให้สุนัขมีอาการกล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นแรง ถ่ายบ่อย และอาจมีอาการหัวใจวาย ที่มีอาการคล้าย ๆ กับการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน อย่างเช่น ชา และกาแฟ
อากาศร้อน แดดจัด แบบนี้ ใครว่ามีแต่คนเท่านั้นที่ร้อน สัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมาถ้าเจออากาศร้อนมาก ๆ ก็ส่งผลให้ป่วย หรือหงุดหงิดได้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นจะแก้ปัญหาอย่างไรดี วันนี้เรามีวิธีมาฝากกันจ้า 1. หมั่นเติมน้ำดื่ม หรือก้อนน้ำแข็ง วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยบรรเทาความร้อน คือหมั่นเติมน้ำดื่มให้สุนัขของคุณอยู่เรื่อย ๆ เพราะอากาศร้อนแบบนี้แน่นอนว่าน้องหมาจะต้องหิวน้ำเป็นพิเศษ ลองใช้น้ำเย็น หรือใส่ก้อนน้ำแข็งลงไปด้วย น้องหมาบางตัวก็ชอบเลียน้ำแข็งให้คลายร้อนด้วยนะ 2. เปิดพัดลม เพิ่มความเย็นสบายให้สุนัขของคุณ ด้วยการเปิดพัดลม ยิ่งโดยเฉพาะสุนัขที่มีขนเยอะ มักจะร้อนมากเป็นพิเศษ ถ้าได้พัดลมเป่าให้ขนปลิวดูบ้าง น้องหมาคงจะอารมณ์ดีมากขึ้น 3. ผ้าเย็นแขวนพัดลม ถ้ากลัวว่าสุนัขของคุณจะเย็นไม่พอ ลองใช้ผ้าเย็นที่แช่ตู้เย็นจนเย็นเฉียบ นำไปแขวนไว้กับพัดลมแล้วปล่อยพัดลมช่วยเป่าไอเย็นให้ไปสัมผัสสุนัขของคุณ เพิ่มความสดชื่นได้อีกนิด 4. เจลเย็น หรือผ้าห่อน้ำแข็ง ลองใช้คูลเจลสำหรับลดไข้ แช่ตู้เย็นให้เย็นจัด แล้วห่อด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ เอามาวางให้น้องหมาของคุณกอดรัดฟัดเหวี่ยง หรือจะวางรอง ให้นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนความเย็นเลยก็ได้ ถ้าไม่มีเจลเย็นให้ลองใช้น้ำแข็งห่อผ้าขนหนูแทน 5. เบาะนอนเก็บความเย็น ลองหาซื้อเบาะเจลสำหรับรองนอน แล้วนำไปแช่ตู้เย็น จากนั้นเอามารองนอนให้กับน้องหมาของคุณ ถ้าหมดเย็นแล้วให้นำเอาไปแช่ตู้เย็นได้เรื่อย ๆ
ช่วงลอยกระทงเป็นช่วงเวลาสนุกสนาน ..อย่าลืมห่วงลูกๆ แหล่งที่มา http://pantip.com/topic/32816821
ปลามังกรเป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่สมัยนี้ผู้คนนิยมเลี้ยงกันมาก เพราะเป็นปลาที่ดูมีความสง่าราศี เหมาะกับผู้คนมีฐานะเพราะมีราคาแพง หลายคนเชื่อกันว่าถ้าเลี้ยงปลามังกรแล้วจะมีโชคลาภ และสำหรับบางคนที่อยากเห็นตั้งแต่ปลาตัวเล็กๆจนปลามังกรค่อยๆโตขึ้น เราก็มีเคล็ดลับง่ายๆในการเลี้ยงให้ปลามังกรโตเร็วและมีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยวิธีง่ายๆและมีปัจจัยหลักๆดังนี้ อาหารปลามังกร ไรน้ำนางฟ้ามีโปรตีนสูงมากถึง 65% ทำให้ปลาที่กินไรน้ำนางฟ้า โตเร็ว เพราะได้โปรตีนช่วยในการเจริญเติบโต คารฺ์โบไฮเดรตสูงกว่าอาหารประเภทอื่นๆ ทำให้ปลาได้รับพลังงานสูง การเคลื่อนไหวก็กระฉับกระเฉง ไขมันต่ำทำให้ปลาไม่อ้วน จึงทำให้ปลาสุขภาพดี ไม้ขี้โรค และที่สำคัญไรน้ำนางฟ้านั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนมากกว่าอาหารชนิด อื่นๆด้วยซึ่งเบต้าแคโรทีนเป็นสารที่สร้างสีสันให้ปลาดูสวยงาม เราสามารถ พบจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า เมื่อปลาหมอสีที่เลี้ยงด้วยปลา หมอสีเพียง 2 วันเท่านั้น ทำให้ปลามีสีแดงสดอย่างชัดเจน และเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ ทำให้ปลาอายุยืนอีกด้วย อากาศ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ปลาแข็งแรงสมบูรณ์ และทำให้ปลากินอาหารได้มากขึ้น ดังนั้นควรเปิดแอร์ปั๊มในตู้อยู่ตลอดเวลา การเตรียมตู้ การเลี้ยงปลามังกรนั้นผู้เลี้ยงต้องคำนึงถึงเรื่องตู้เป็นอันดับแรกนะคับ มาตรฐานขั้นต่ำที่ใช้เลี้ยงนั้นคือ 60*24*24 นิ้ว หรือ ประมาณ 150*60*60 ซม. จะสามารถเลี้ยงจากขนาดเล็กที่มีขายตามร้านค้าทั่วไปจนถึง ขนาด 24 นิ้ว จะสามารถทำให้ท่านเลี้ยงได้ประมาณ 4-5 ปี แล้วจึงค่อยขยับขยาย” แต่หากท่านที่มีเนื้อที่ ค่อนข้างจำกัดจริงๆก็สามารถเลี้ยงได้ตลอดไป แต่กระจกที่ใช้ควรจะหนาประมาณ 3
ฮอลแลนด์ ลอป ขึ้นชื่อว่าเป็นกระต่ายกินจุ เพราะสนุกกับการกินเอามาก ๆ และยังฉลาดแสนรู้ สามารถจดจำชื่อของตัวเองและเจ้าของได้อย่างแม่นยำ ขณะเดียวกันก็มี โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ก็ยังต้องการเวลาที่จะได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าของอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง การเลี้ยงควรให้อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเท ไม่ร้อนจัด ลมไม่พัดแรง และที่สำคัญคือ ต้องไม่ชื้นแฉะ เพราะอาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บได้ ———————————————————————————– สิ่งที่ควรทำในการเลี้ยงกระต่าย ดูแลและสังเกตเป็นประจำ ถ้าเกิดความผิดปกติเพียงเล็กน้อยต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ ให้สัมผัสอย่างเบามือ ทำความความสะอาดบริเวณกรงอย่างสม่ำเสมอ ควรให้อาหารที่เหมาะสม ควรให้ถ่ายพยาธิหรือตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1ครั้ง ——————————————————– สิ่งที่ไม่ควรทำในการเลี้ยงกระต่าย อย่าหิ้วหูกระต่ายเด็ดขาด อย่าให้อาหารประเภทขนมที่เป็นแป้ง คาร์โบไฮเดรต เพราะจะเกิดผลเสียกับเขา อย่าเลี้ยงกระต่ายเป็นแฟชั่น ให้เลี้ยงเพราะว่าอยากจะเลี้ยง อย่าอาบน้ำให้กระต่ายบ่อยเกินไป ประมาณ 3-4 เดือน/ครั้งก็พอ หากที่บ้านมีแมว ไม่ควรเอาห้องน้ำแมวที่มีสารดับกลิ่นมาใช้กับกระต่าย ควรใช้ขี้เลื่อย หรือหนังสือพิมพ์แทน อาหารของกระต่าย หญ้า หญ้ามีหลายชนิดที่หาง่ายได้ทั่วไปก็คือ หญ้าขนสามารถจะไปตัดได้จากข้างทาง ลักษณะหญ้าขนก็คือ หญ้าที่เป็นขนๆ นอกจากหญ้าขนแล้วก็จะมีหญ้าอีกหลายๆชนิดที่มีจำหน่ายทั่วไปตาม ท้องตลาด เช่น หญ้าtimothyหญ้าแพงโกล่าและหญ้าอัลฟาฟ่าค่ะโดยที่หญ้าแต่ละชนิดจะมีสารอาหาร